Page 10 - แนวปฏิบัติทางคลินิกสำหรับการดูแลอนามัยช่องปากของผู้สูงอายุ
P. 10
01 น า
ที่มัาของการัพัฒนาแนวปฏิิบััติิทางคลิินิก
์
ั
ุ
้
ู
่
อนามัยชองปากเป็นองคประกอบสำาคญของสขภาพโดยรวมในผูสูงอายุ การดแลอนามัยชองปาก (oral
่
็
ู
ิ
่
ิ
่
ู
ุ
hygiene care) การดแลสขภาพชองปากสำาหรับผ้สงอายทกกลุ่ม เปนหนึงในความรับผดชอบของทมสหสาขาวชาชีพ
ู
ุ
ี
ุ
้
ิ
ั
่
ิ
็
ิ
้
ี
่
ู
ทังนี สมาชกในทีมตางกมีหน้าทีในการดแลที่แตกตางกนไปตามบรบทของการทำางาน แมจะมความรับผดชอบที ่
่
้
้
้
ั
่
่
่
่
่
่
ุ
ิ
้
แตกตางกน ก็มีเปาหมายทีไมแตกตางกน เพือให้ชองปากสะอาดที่สดเท่าทีจะทำาได ลดการตดเชือในระบบทางเดิน
ั
่
ู
ุ
ู
่
้
หายใจ และทำาให้ผู้สงอายุมความสขสบายมากขึน (Feider, Mitchell, & Bridges, 2010) โดยเฉพาะในกลุมผู้สงอายุ
ี
้
่
่
ั
ที่ชวยตนเองไม่ไดซัึงนับวนจะมีจำานวนมากขึน
้
่
่
ั
่
ผ้สงอายุท่มภาวะพึงพงโดยเฉพาะผูทีเข้ารบการรกษาตวในโรงพยาบาล นับวาเปนกลุมผ้ปวยท่มความเสียงสูง
้
ู
ั
่
ิ
ั
ี
่
ี
ี
็
ี
่
ู
ู
่
ั
่
ิ
้
ิ
ำ
้
้
่
ตอการเกดภาวะแทรกซัอนจากโรคตดเชือในชองปาก ทังนีเนืองมาจากการถูกจากัดกจกรรมอนเนืองมาจากแผน
้
่
ิ
ั
ำ
ั
ึ
้
ั
้
ิ
ู
ั
ิ
่
ั
การรกษา สงผลให้ไมสามารถปฏบตกิจวตรประจาวนในการดแลสขภาพพืนฐานได ผลจากการศกษาหลายฉบบสะทอน
้
ุ
่
ให้เห็นวา หากสขภาพชองปากทีไมด นอกจากจะทำาใหตดเชือแลว ยังทำาใหผูสงอายุไมสามารถเคียวอาหารไดตาม
ิ
้
ู
้
้
่
้
ุ
่
้
่
้
่
ี
้
่
ปกติ นำาไปสูการขาดสารอาหาร นอกจากนัน ความไม่สขสบายจากช่องปากที่มีปญหาทำาให้ผู้ปวยสงอายุนอนไม่หลับ
ั
ุ
ู
่
่
้
่
ั
ึ
ุ
่
่
รวมไปถงการสือสารทีไม่ชดเจน เหล่านี้สงผลกระทบต่อคณภาพชีวตในระยะยาว
ิ
ู
ู
ู
ี
ิ
ุ
่
้
ี
่
็
้
ุ
่
ป ัจจัยท่สงผลใหการดูสขภาพชองปากของผ้สูงอายุทกกลุมนัน เกดจากการท่ตัวผ้สงอายุเองไม่เหนความสำาคัญ
้
ู
่
่
ั
ของการดแล ชวยเหลอตนเองไดน้อย เจาหน้าทีทังในโรงพยาบาลและชมชน ขาดแนวทางปฏิบตทีชดเจนของ
ั
ุ
ิ
้
่
ื
้
่
ิ
ู
ั
่
่
่
่
ี
้
้
ิ
แตละกลุม ประกอบกบภาระงานทีเพิมมากขึน อีกทังวธการดแลโดยญาตในเรืองการทำาความสะอาดชองปากยังม ี
่
ความแตกตางกน ทำาให้ผู้สงอายเหล่านี้มโอกาสเกิดปญหาในชองปาก และในกรณีผู้สงอายภาวะพึงพิงยังมโอกาสติด
ู
ั
่
่
ู
ุ
ี
ุ
่
ี
ั
์
เชือได้ง่าย ดังนันในการปฏิบัตโดยใช้หลกฐานเชงประจักษ (evidence-based practice) จงเป็นวิธการหนึงซัึงเป็นที ่
ี
้
ั
่
ิ
่
ึ
ิ
้
ยอมรบในทีมสขภาพวาเป็นวธการท่ทำาใหคณภาพการดแลผ้ปวยมคณภาพ โดยจะชวยเปลียนแปลงวฒนธรรมในการ
่
ู
่
้
ั
ุ
ี
่
่
ิ
ุ
ี
ั
ี
ุ
ู
ิ
ิ
ดแลให้ดขึน มการปฏิบตโดยใชความรูจากผลวิจยและช่วยใหสหสาขาวิชาชีพยอมรับแนวทางทีปฏบตโดยใชผลงาน
ั
้
ั
ิ
่
้
ั
้
้
ี
ู
้
ี
่
ิ
ั
้
ี
ั
ิ
วิจย (Melnyk et al., 2016) ซัึงจำาเป็นตองมการพฒนาแนวปฏิบัตทางคลินก (Clinical Practice Guideline) ที ่
้
้
ั
่
ิ
ั
้
ำ
ุ
รวบรวมขอสรปในประเด็นสาคัญๆ จากผลการวจยประเภทตางๆ ตลอดจนขอเสนอแนะจากผูเชียวชาญที่เคยพฒนา
่
์
แนวปฏบัติหรอมาตรฐานการดแลมากอน ซัึงแนวทางที่มมาตฐานและมงานวจัยสนบสนุนนี จะทาใหผลลัพธของการ
ื
ิ
้
้
ั
ิ
ี
่
ู
่
ี
ำ
ดแลผู้ปวยมีคณภาพ (Lugtenberg, Burgers, & Westert, 2009)
ุ
่
ู
8